ทำความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำบาดาลของเรา - เราหาน้ำบาดาลได้อย่างไร

ตามประวัติศาสตร์ ผู้คนนั้นตั้งรกรากอยู่ใกล้กับแหล่งที่มีน้ำจืด เนื่องจากน้ำนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของทุกชีวิต ฟังศาสตราจารย์ Anders Vest Christiansen แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของน้ำบาดาลที่มีต่อการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ และเกี่ยวกับเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเพื่อค้นหาและจัดการกับทรัพยากรน้ำบาดาล

ตามประวัติศาสตร์ ผู้คนลงหลักปักฐาน ในบริเวณที่อยู้ใกล้เคียงกับแหล่งน้ำ  เนื่องจากน้ำเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับชีวิต  

เรารู้เรื่องนี้จากเดนมาร์ก ตลอดจนจากอารยธรรมโบราณยุคก่อนหน้านี้  ที่ก่อตั้งขึ้นใกล้กับแม่น้ำสายหลัก ๆ ในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง  ในพื้นที่ที่ไม่มีทางเข้าถึง น้ำได้ในทันที  ผู้คนรีบหาวิธี ที่จะทำให้ได้น้ำ  ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คืออาณาจักรโรมัน  ที่ซึ่งมีการสร้าง ระบบท่อระบายน้ำที่ซับซ้อน  เพื่อขนถ่ายน้ำจากหุบเขา ที่อยู่ห่างไกลไปยังกรุงโรม  ผู้คนยุคนั้นยังเรียนรู้ว่าคุณสามารถ เข้าถึงน้ำใต้ดินที่ตื้น ๆ ได้  ด้วยการขุดหลุม บนพื้นดินในตำแหน่งที่เหมาะสม  ถ้าคุณสร้างหลุมด้วยอิฐหรือหิน คุณก็จะมีแหล่งจ่ายน้ำที่อยู่คงที่  แม้ในปัจจุบัน ผู้คนรอบโลก  ก็ยังต้องอาศัยน้ำดื่ม ที่มาจากบ่อน้ำแบบเปิดที่ตื้น ๆ  ปัจจุบันนี้ เมื่อมีการค้นหาน้ำบาดาล เพื่อสูบใช้  เราได้พยายามตอบ คำถามมากมายในเวลาเดียวกัน  อย่างแรก เราต้องบ่งชี้ถึง ชั้นใต้ดินที่อุ้มน้ำ  โดยเราเรียกชั้นเหล่านี้ว่าชั้นหินอุ้มน้ำ (Aquifer)  ชั้นทรายที่ชุ่มไปด้วยน้ำ เป็นชั้นหินอุ้มน้ำชั้นเลิศ  สิ่งที่มีดินเหนียวมากกว่าหรือ มีขนาดเล็กกว่าอาจอุ้มน้ำได้ดี  แต่เราก็ไม่สามารถนำน้ำออกมาใช้ได้ ซึ่งเราเรียกชั้นเหล่านี้ว่าชั้นหินต้านน้ำ (Aquitard)  อย่างที่สอง เราต้องบ่งชี้ถึง บริเวณพื้นผิว  ถึงการเติมชั้นหินอุ้มน้ำด้วยน้ำ และอัตราที่เกิดขึ้น  บริเวณที่มีการเติมน้ำเข้า อาจอยู่ไกลจากชั้นหินอุ้มน้ำมาก  แต่นี่เป็นข้อมูลชิ้นสำคัญ  ในการทำให้เกิดอัตราการสูบน้ำ ที่ยั่งยืนสำหรับบ่อในปีต่อ ๆ ไป  สุดท้าย เราต้องการรู้ ปริมาณน้ำ  ในหลาย ๆ พื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรากำลัง มองหาน้ำบาดาลที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง  น้ำอาจมีเกลือ  ซึ่งอาจจะใช้ไม่ได้เลย สำหรับดื่มหรือการชลประทาน  การค้นหาน้ำบาดาลทำได้โดย การขุดเจาะหลุมในพื้นดิน  ที่ซึ่งคุณคาดว่า มีชั้นหินอุ้มน้ำ  ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติทั่ว ๆ ไป มานานหลายปี และยังนำมาซึ่ง  หลุมเจาะจำนวนหนึ่งที่ไม่ประสบ ความสำเร็จในการหาน้ำ  วิธีการทางธรณีฟิสิกส์ พบว่ามีการใช้กันอย่างแพร่หลาย  โดยเป็นเครื่องมือสแกนน้ำในดิน สำหรับชั้นที่หลบซ่อนอยู่  เพื่อให้ภาพของน้ำในดินที่ใช้ได้ ในการชี้ไปที่จุดเป้าหมายที่เป็นที่ต้องการ  ในการเจาะครั้งถัดไป เมื่อทำการค้นหาน้ำของคุณ  เครื่องมือทางธรณีฟิสิกส์มีอยู่หลายรูปแบบ แต่ในการสืบหาน้ำบาดาลนั้น  ที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ วิธีการใช้แม่เหล็กไฟฟ้า  วิธีการใช้แม่เหล็กไฟฟ้า มีการใช้สองอย่างคือ:  อย่างแรก ข้อเท็จจริงที่ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่หลากหลาย ก่อให้เกิดสนามไฟฟ้าที่หลากหลาย  และในทางกลับกัน  อย่างที่สอง ข้อเท็จจริงที่ว่าโลกนั้น สามารถนำกระแสได้  ซึ่งหมายความว่าถ้าเราสร้าง สนามแม่เหล็กที่หลากหลายที่พื้นผิว  ใต้ผิวดินก็จะตอบสนอง ด้วยสนามไฟฟ้าที่หลากหลาย  สนามไฟฟ้าที่หลากหลายนี้ก็เช่นเดิม คือมีสนามแม่เหล็กที่หลากหลายของตนเอง  ซึ่งเราเลือกได้ที่พื้นผิว ในขดลวดเหนี่ยวนำ  ตัวอย่างของเครื่องมือวัด แม่เหล็กไฟฟ้าแบบนี้ก็คือระบบ tTEM นี้  ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน ที่ด้านหน้า มี ATV ดึงเครื่อง  ที่ตอนกลาง เรามีขดลวดเครื่องส่งสัญญาณ  ซึ่งทั่วไปก็คือลวด ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่หลากหลาย  ในด้านหลัง เรามีขดลวดตัวรับสัญญาณ ที่จะเลือกคำตอบจากพื้นดินด้านล่าง  รูปร่างและขนาดของการตอบสนองทาง แม่เหล็กที่รับในขดลวดตัวรับสัญญาณของเรา  สามารถแปลเป็นโมเดลของ คุณสมบัติทางไฟฟ้าของใต้ผิวดิน  ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ แปลคุณสมบัติทางไฟฟ้า  ของชั้นต่าง ๆ ในใต้ผิวดิน ให้เป็นบางอย่างที่มีความหมายมากขึ้น  เราทำได้ เพราะคุณสมบัติทางไฟฟ้า  ขึ้นอยู่กับชนิดของหิน หรือตะกอนในใต้ผิวดิน  ลองจินตนาการดูว่าเรามีโมเดล ใต้ผิวดินที่ประกอบด้วยทรายแห้ง  ทรายเปียกและดินเหนียวนิดหน่อย  ทรายแห้งจะมี ความต้านทานสูงสุด  ในการนำกระแสไฟฟ้า  ทรายเปียกเป็นสื่อนำไฟฟ้ามากกว่า ส่วนดินเหนียวจะดีที่สุดในการนำไฟฟ้า  ซึ่งทำให้เราแปลความหมาย สัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า  เป็นโมเดลที่มีความหมายมากกว่า ของใต้ผิวดิน  ที่ซึ่งเราสามารถแสดงถึง ชั้นที่ซ่อนอยู่ได้  การแมปนั้นทำได้ โดยตรงบนพื้นดิน  หรือแม้แต่จากเฮลิคอปเตอร์ที่บรรทุก ขดลวดนำไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นโหลดสลิง  ด้วยวิธีนี้ พื้นที่ขนาดใหญ่ก็ สามารถแมปได้อย่างรวดเร็ว  ซึ่งให้ภาพของชั้นที่หลบซ่อนอยู่ ในใต้ผิวดิน  การกำหนดตำแหน่งน้ำบาดาลเป็น งานสำคัญมาตลอดยุคสมัยอารยธรรม  โดยปัจจุบันนี้ การพัฒนาทางเทคนิค และเครื่องมือทางธรณีฟิสิกส์ขั้นสูง  ทำให้เราสามารถสแกนใต้ผิวดินได้ ซึ่งช่วยให้เราเผยให้เห็นถึงชั้นที่ซ่อนอยู่ใต้ดินได้  ช่วยให้เราสามารถ เจาะจงไปที่เป้าหมายที่ดีที่สุด  ในการวางตำแหน่ง บ่อน้ำบาดาลครั้งต่อไปได้  

ภาพโดยรวมหลักสูตร

โมดูล
โมดูล : 5
เวลาที่ใช้
เวลาที่ใช้: 25 นาที
ระดับความยากง่าย
ระดับความยากง่าย : พื้นฐาน